หลายคนอาจคิดว่าการเลือกสายไฟเป็นเรื่องยาก เพราะสายไฟในท้องตลาดมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันไปหมด ถ้าไม่ปอกดูข้างในก็แทบแยกไม่ออกเลยว่าสายไหนเป็นสายอะไร แต่จริงๆ แล้วการเลือกสายไฟไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ! สิ่งที่คุณต้องทำคือดู Marking หรือสัญลักษณ์ที่พิมพ์อยู่บนสายไฟ ซึ่งบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสายไฟนั้นๆ ได้ทั้งหมด
วิธีอ่าน Marking บนสายไฟแบบง่ายๆ:
- ชื่อชนิดของสายสัญญาณ: เช่น สายไมโครโฟน Microphone Cable 1PX24AWG
- แบรนด์หรือชื่อผู้ผลิต: เช่น HOSIWELL
- อุณหภูมิการใช้งาน: เช่น “70°C” บอกอุณหภูมิสูงสุดที่สายไฟสามารถใช้งานได้
- ขนาดสายไฟ: เช่น “24 AWG”
- มาตรฐานการผลิต: เช่น ULxxxxx หรือ ETLxxxxx ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตของสายสัญญาณ
- แรงดันไฟฟ้า: เช่น “450/750V” เป็นแรงดันที่สายไฟนั้นสามารถรองรับได้ *
*สำหรับสายเคเบิลที่สั่งทำ (ถ้ามี)
ทำไม Marking ถึงสำคัญ?
การอ่าน Marking บนสายไฟช่วยให้คุณสามารถเลือกสายไฟที่เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานภายในบ้าน โรงงาน หรืออาคารสูง การเลือกสายไฟที่ถูกต้องจะช่วยให้การติดตั้งระบบไฟฟ้าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น